เพียง...ข้างเดียว - เพียง...ข้างเดียว นิยาย เพียง...ข้างเดียว : Dek-D.com - Writer

    เพียง...ข้างเดียว

    เพราะอะไร ทำไมฉันจึงต้องสะดุดเขา เพียงเพราะว่าเขาหน้าตาดีหรอ...ไม่...แต่เพราะว่าฉันไม่กล้าบอกเรื่องที่ว่าชอบเขา เลยทำให้...เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น...เพียง..ข้างเดียว

    ผู้เข้าชมรวม

    239

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    239

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 มี.ค. 49 / 23:32 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
                  เรื่องได้เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2005 เมื่อปีที่แล้วนี่เอง.....................
                ณ เวลาตอนเช้าของการปิดเทอมใหญ่ เป็นเวลาที่ว่าของเด็กนักเรียน  ได้เวลาที่จะได้นอนตื่นสายสุดๆ  เรามีชื่อว่าปลายฟ้า  ได้ไปสมัครงานที่ห้างๆหนึ่งได้ไปทำงานที่ร้านขายขนมที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง วันนี้เราได้ไปหาเพื่อนเก่าของเราที่ขายของอยู่บนชั้น 2 ของห้าง (ฉันขายอยู่ชั้นแรก)  แล้วถัดไปอีกบล็อคก็จะมีร้านๆหนึ่งที่คนขายค่อนข้างดีทีเดียว จริงสิ เพื่อนเราที่ขายของอยู่คนนี้มีชื่อว่าเรนโบว์ (แต่เราเรียกว่าเรนเฉยๆ เพราะชื่อวันยาวแถมฟังดูอินเตอร์ยังไงไม่รู้)  ที่ฉันมาที่ร้านนี้ก็เพราะว่ามาหาเพื่อนมาคุยกับเพื่อนเพราะว่าไม่ค่อยได้มีใครมาหา  แล้วก็คนไม่ค่อยได้เข้ามาที่ร้านของเรนบ่อยนัก มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เรนมันมาคุยเรื่องคนที่มันชอบให้ฟังดูท่าทางที่มันพูดคงชอบมาก  แล้วมันก็วกมาถามฉันว่า "ฟ้า แกมีคนที่ชอบบ้างยังวะหรือว่าคนที่ชอบก็ได้  เล่าให้ฟังบ้างดิ"  เรื่องอะไรล่ะ  แต่ว่าเราเป็นคนที่นิสัยว่าไม่ค่อยได้เล่าเรื่องความรักหรือเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังเท่าไหร่  เพราะว่าถ้าฉันบอกออกไปบางทีก็กลัวเพื่อนจะล้อบ้างอะไรปานนี้ล่ะ  เรนก็เคยถามฉันว่าชอบใครบ้างรึเปล่า เราก็บอกว่าไม่หรอกไม่อยากมี
      แต่เราก็ได้แต่พูดในใจว่าก็เพื่อนแกนะแหละ แต่ถ้าบอกออกไปมันคงต้องล้อหรือไม่ก็ติดต่อให้แน่เลย   เราก็เลยไม่พูดออกไป    วันนี้เป็นเวณที่เราต้องอยู่หน้าเคาท์เตอร์ร้านเป็นคนคิดเงิน  ในช่วงที่เราทำงานอยู่นี้เราก็ได้เห็นมีคนเอาขนมมาวาง  ตามธรรมดาที่ต้องสวัสดีลูกค้าก่อน พอเราเงยหน้าก็เห็นเขาคนนั้นที่เราชอบมาซื้อขนม  รู้สึกว่าเราตื่นเต้นมาก พี่ที่ขายของด้วยกันเอาขนมใส่กล่องแล้วก็สะกิดเราให้รีบคิดเงิน ดูท่าพี่เขาจะมองออกว่าเราชอบเขาคนนั้น  พอเขาเอาขนมไปแล้วเดินออกจากร้านไป  พี่เขาก็เข้ามาล้อว่าชอบเหรอ เราก็บอกว่าไม่แค่มองเฉยๆว่าหน้าตาดีเนอะ 
                   หลังจากนั้นอีกหลายวันเราก็ขึ้นไปหาเรนตามปกติแต่ครั้งนี้สิแปลกเพราะว่าเขาคนนั้นมาเรนที่ร้านเพื่อจะเอาของที่ฝากไว้  เราตื่นเต้นมาก  เพราะเขามองเราแล้วยิ้มให้ด้วย ช่างเป็นวันที่ดีที่สุดอะไรปานนี้  แต่เราก็ไม่ค่อยได้กล้าพูดกับเขาเท่าไร  แล้วพอใกล้เปิดเทอมเราก็ลาออกจากร้าน (พี่ที่ร้านบ่นกันใหญ่เลยว่าไม่อยากให้ออก)  เริ่มไปเรียนเลยไม่ค่อยได้มาหาเรนเท่าไหร่ แต่พอมาเราก็พาเพื่อนซี้สนิทของเรามาแต่ก็รู้จักกับเรนเหมือนกัน มีชื่อว่าคิทตี้  คิทเป็นคนที่คุยสนุกคุยได้กับทุกคน  แม้กระทั่งคนที่เราชอบด้วย  เราอยากจะคุยบ้าง  แต่ดูท่าทางที่เรามองเขา เขาคงรู้ว่าเราคงชอบเขาก็จะมักยิ้มให้  แค่รอยยิ้มก็ดีแล้ว  แต่หลังจากนั้นไม่นานเพื่อนของเราอีกคนหนึ่งก็มา  คนนี้ถือได้ว่าเป็นคนที่เจ้าชู้มาก(ผู้หญิงนะ)  แล้วเขาก็ชอบคนๆนั้นของเราด้วย  อ้อ..เขาชื่อตั้น  แต่ตั้นก็คุยด้วยเฉยๆจนทั้งสองเริ่มสนิทแล้วซี้กัน  เราจึงเริ่มที่จะไม่ไปหาเรน ไม่อยากที่จะเห็นว่านทำตัวสนิทมากเกินไป  แต่เราก็จะไปว่าเขาไม่ได้หรอกเพราะว่าเราไม่คุยกับตั้นให้มากขึ้นเองนี่  จนเรนบ่นมาเราทิ้งเรนไม่สนเรนเลย  แต่เราก็บอกไปว่าเราติดเรียน........แต่เขาทั้งสองคนยังสนิทกัน  คุยกันจนว่าเริ่มเผยความนิสัยไม่ดี ทำตัวไม่ให้เป็นที่น่าไว้วางใจจนไม่คุยกันไปในที่สุด  เราเองก็ห่างไปนานๆจะไปทีจนหระทั่งในปีนี้
               ปี 2006  ที่จริงเราก็ไม่ได้ไปไหน มาเที่ยวที่ห้างบ้าง แต่ก็ยังคงมองเขาในที่ไกลๆ แค่ได้มองก็พอ จนกระทั่งวันนี้  เรามาหาเรนมานั่งคุยกับเรน  แต่ก่อนหน้านี้เรนได้บอกว่าเขามีปัญหากับตั้นเพราะเรื่องบางอย่างแต่ตอนนี้คุยกันแล้ว  เรานั่งหันหลังให้ร้าน  แล้วก็มีคนหนึ่งเข้ามา มาหาเรนถามว่า "เรนแกใช้ซิมของอะไรวะ มีของ 1-2-call รึป่าว ขอหน่อยดิ"  เรนได้แต่ส่ายหัว  เราก็เลยกันไปมองว่าคนที่พูดนั่นใคร  ที่แท้ก็คนที่เราชอบที่ไม่ได้เห็นหน้ากันมานาน  แต่ยังไม่ทันเท่าไร  ยัยเรนก็บอกว่าเราใช้  ตั้นก็เลยขอยืมโทรศัพท์ของเรา  เราบอกว่า "โทรศัพท์ของเราไม่มีตังค์นะจะเอาไปทำอะไร"  ตั้นบอกว่าไม่เสียตังค์หรอกฟรี    ฟรี...เราก็งง  แล้วตั้นก็พูดต่อว่า"อีกสักไม่เกิน 2 ชม. จะมีข้อความมานะ"  แต่เราต้องกลับก่อนอะดิ  ตั้นบอกว่า "งั้นฟ้ารอก่อนสักชั่วโมงถ้าไม่มาให้กลับบ้านก่อนก็ได้"  เราก็เลยแกล้งประชดไปว่า "เอาโทรศัพท์ไปเลยดีไหม? ฟ้าจะได้ไม่ต้องรอ"  ตั้นบอกว่า "งั้นเราเอาไปขายเลยแล้วกัน ไม่ได้มากก็น้อย ยังดีกว่าไม่ได้เงิน"  ดูเขาพูดเข้าสิแล้วยังยิ้มส่งท้ายด้วยก่อนจะเดินกลับไป  เรนบอกว่าตอนนี้ตั้นมีแฟนแล้ว  เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก  ก็คงเป็นได้แค่เพื่อนกันนี้แหละ  อย่างน้อยก็ยาวนานก่วาคำว่าแฟน  ถึงแม้ว่าตั้นจะรู้หรือไม่รู้ว่าฉันชอบเขาก็ตาม  แต่ความรู้สึกฉันก็ยังมีดีๆให้เขาอยู่  อาจจะไม่ใช่คำว่ารัก  แต่อาจจะเป็นคำว่าเพื่อน  เพื่อนที่ถาวร  และเพื่อนที่รักเธอ...เพียง...ข้างเดียว

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×